วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความในใจที่ “เสียดาย และเสียใจ” ๑

หลายปีที่ผ่านมา ผมได้ทบทวนตัวเองหลายครั้งหลายหน ทำให้เกิดความตระหนัก และได้ข้อสรุปการเรียนรู้ว่า ผมคงไม่สามารถเป็น ครูที่ดีได้เท่าไหร่ เพราะผมเป็นครู ที่ตั้งใจ ฝึกมากกว่า สอนและผมเองก็ได้ทำอะไรๆหลายอย่างเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา การปฏิรูปการเรียนการสอน โดยเฉพาะเน้นการคิดวิเคราะห์มาตลอดในโรงเรียนต่างๆอย่างตั้งใจและทุ่มเท มากว่า ๓๐ ปี

แต่...จากคนที่ผมเคยสอน เคยเป็นครูของพวกเขา และมาเป็นเพื่อนผมในเฟสบุ๊ค (แม้แต่แฟนเก่า 555) เห็นที่ผมโพสต์และแชร์ กลับคิดและเข้าใจว่าผมเป็นพวกเสื้อแดง ทำไมไปหลงเชื่อระบอบทักษิณ   ทั้งๆที่ผมบอกตลอดว่า ถ้าคุณเลือกประชาธิปไตย คุณก็ต้องหัดยอมรับกติกา หลักการประชาธิปไตยสิ จะไปเอาหลักการอื่นมาใช้กับระบอบประชาธิปไตยไม่ได้ และผมก็พยายามย้ำในสิ่งที่ผมแชร์ว่า นี่เป็นข่าว ข้อมูล ข้อเท็จจริง และเหตุการณ์อีกด้าน

สุดท้ายก็สูญเปล่า เพราะเขาก็ยังเลือกที่จะรับรู้ข้อมูลฝ่ายเดียวอยู่นั่นเอง

ผมจึงสรุปบทเรียนการเป็นครูของผมว่า สูญเปล่าเขาไม่ตระหนักและจำสิ่งที่ผมเคย ฝึกพวกเขา   ผมฝึกให้พวกเขาทำแบบทดสอบแบบวิเคราะห์  ๕ ครั้ง บางปีเป็นกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต  ๘ อย่าง ผมไม่ได้หวังว่าเขาจะต้องรู้ จะต้องเข้าใจในสิ่งที่ผมสอน   ในตอนนี้ผมเพียงแต่อยากให้เขายังพอจำได้ว่า  ในอดีตผมเคย “ฝึก” พวกเขาแบบไหนเท่านั้นเอง

น่า เสียดาย และ เสียใจวันเวลาที่ผ่านไป

ทุกครั้งที่ผมสอนนักเรียนที่ผมได้รับผิดชอบทุกปีการศึกษา และทุกโรงเรียนที่เคยไปสอน ไม่ว่าจะเป็นวิชาพระพุทธศาสนา(หลักสูตร 2527-2551) วิชาศีลธรรม(หลักสูตร 2518 และ ๒๕๒๑) หรือวิชาต่างๆในกลุ่มภาษาไทยบ้าง ในกลุ่มสังคมศึกษาบ้าง แม้การสอนวิชาปรัชญา วิชาการศึกษา วิชาจิตวิทยา วิชามานุษยวิทยาในระดับอุดมศึกษาทุกแห่ง ผมก็จะสอนแบบคิดวิเคราะห์ ฝึกให้ค้นคว้าหาเหตุผลมาตอบ เช่น

เชื่อไหมว่าพระพุทธเจ้าประสูติแล้วเดินได้ ๗ ก้าว,
ทำไมพระพุทธเจ้าทรงผนวชต้องปลงพระเกศาจนหัวโล้นด้วย,
ทำไมพระพุทธเจ้าประสูติแล้วพระมารดาทิวงคตภายใน ๗ วัน,
ทำไมศาสนาอิสลามจึงห้ามทานเนื้อหมู, ทำไมผู้ชายต้องโพกผ้า ผู้หญิงต้องคลุมหน้าตลอดเวลา,
ทำไมคนภาคเหนือ ภาคอีสานจึงชอบกินข้าวเหนียว,
ทำไมคนภาคเหนือ ภาคอีสานกินข้าวเหนียวเหมือนกัน แต่คนอีสานจมูกบานกว่า,
รู้ได้อย่างไรว่าในสมัยสุโขทัยปกครองแบบพ่อปกครองลูก
ทำไมคนสมัยก่อนใช้เบี้ยแทนเงินตรา
ทำไมพม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาแตก แต่ทำไมคนไทยยกทัพไปตีพม่าไม่แตก
ทำไมภาษาไทย จึงมีตัวอักษรและเสียงไม่เหมือนกับภาษาอื่นๆ
ทำไมคนไทยจึงเป็นคนยิ้มง่าย ชอบพูดว่า ไม่เป็นไรหรือ ถามว่ากำลังทำอะไร คิดอะไรอยู่ ก็มักจะตอบว่า เปล่าก่อนทุกที
                                                       ฯลฯ

หลายคนที่เคยเรียนกับผม คงพอจำได้ว่า วิชาผมมีแต่ทำไม ? เพราะอะไร ? มากมายทุกวัน และตอบไปเท่าไหร่ก็ไม่ถูก ขนาดลอกคนที่ผ่านไปแล้ว ก็ยังผิดอยู่เรื่อยไป จนคงนึกด่าและวิจารณ์ว่าผม เพี้ยนแน่ๆ หรือไม่ก็ตรวจเอาแต่ใจตนเอง หรือให้ผ่านเฉพาะคนสวย หรือคนที่ถูกใจละมั้ง(ฮา)

 เช่น คำถามที่ว่า เชื่อไหมว่าพระพุทธเจ้าประสูติแล้วเดินได้ ๗ ก้าวขนาดตอบว่าเชื่อก็ไม่ผ่าน ตอบว่าไม่เชื่อก็ไม่ผ่าน เขียนอธิบายอย่างไรก็ไม่ผ่าน ถามเพื่อนๆ ที่ผ่านก็ยิ่งงงใหญ่ เพราะอีกคนตอบว่าเชื่อก็ผ่าน ตอบว่าไม่เชื่อก็ผ่าน แล้วทำไมของตัวเองไม่ผ่าน ชักโมโหขึ้นทุกวัน จนวันหนึ่งผมอธิบายถึงวิธีการตอบจึงหายงงไปบ้าง

ผมอธิบายว่า***"...ตอบอย่างไรก็ได้ไม่สำคัญ, แต่ที่สำคัญที่สุด คือ คำตอบนั้นใช้หลักการ, เหตุผลอะไรมาตอบ...."*** เช่น ตอบว่า เชื่อว่าพระพุทธเจ้าประสูติแล้วเดินได้ ๗ ก้าว เพราะท่านเป็นคนมีบุญวาสนา ตอบอย่างนี้ผมก็ไม่ให้ผ่าน เพราะก็ต้องมาอธิบายกันอีกว่า แล้วรู้ได้อย่างไร ท่านเป็นคนมีบุญ, บางคนตอบว่าไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าประสูติแล้วเดินได้ ๗ ก้าว เพราะไม่มีเด็กที่ไหนเกิดมาเดินได้ ตอบอย่างนี้ผมก็ไม่ให้ผ่าน เพราะมีบันทึกความมหัศจรรย์ถึงเด็กที่เกิดมาแล้วมีปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เช่น เกิดมาแล้วร้องเป็นเพลงได้ทันที, บางคนก็พูดเรียกพ่อ เรียกแม่ได้, ลองหาอ่านตามหนังสือต่วยตูนก็ได้ หรือจะเข้าไปค้นหาใน "กูเกิล" ก็ได้ อย่าพูดแต่เพียงว่าไม่เชื่อ แต่ให้ค้นหาก็ไม่ค้นหาเลยนะครับ

ไม่มีคำตอบไหน "ถูก หรือ ผิด"  มีแต่  "มีหลักและเหตุผล"  เพียงพอหรือไม่

แต่การที่ผมให้นักเรียนหลายคนผ่าน ก็เพราะบางคนตอบเข้าท่ามีเหตุผลบ้าง แม้จะยังให้เหตุผลไม่เป็นไปตามหลักการครบถ้วน หรือเป็นวิทยาศาสตร์ก็ตาม เช่น ตอบว่าไม่เชื่อ เพราะเด็กเกิดมากระดูกยังไม่แข็งแรงที่จะยืนได้ แม้ว่าจะไม่ยกหลักสรีระ หรือชีววิทยามาตอบ ผมก็ให้ผ่าน, แต่เวลาไปอธิบายให้เพื่อนฟัง ก็มักจะอธิบายไม่ชัดเจน เพื่อนๆแม้จะพยายามลอกตามก็ให้เหตุผลที่ดีไม่ได้อยู่ดี เพราะเขายังไม่เข้าใจหลักการตอบนั่นเอง

อย่างคำถามที่ว่า "ที่คนภาคเหนือ ภาคอีสานชอบกินข้าวเหนียว" ไม่ใช่เพราะวัฒนธรรมประเพณี กินอิ่มทนอะไรหรอกครับ เป็นเพราะสภาพดินภาคเหนือภาคอีสานมีสภาพดินร่วนปนทราย ปลูกได้ดีแต่ข้าวเหนียว จึงทำให้คนภาคนั้นบริโภคข้าวชนิดนี้มาตลอดจนกลายเป็นสภาพแวดล้อมที่เคยชิน

คำถามอื่นๆ ลองหาเหตุผลดูสิครับ สนุกดี แต่บอกใบ้ให้นะครับ ส่วนมากคำตอบมักเกี่ยวข้องกับภูมิศาสตร์ สิ่งแวดล้อมทั้งนั้น ไม่ใช่ความลึกลับ ความศักดิ์สิทธิ์ หรือปาฎิหาริย์อะไรหรอกครับ

คราวหน้าจะชวนคุยเรื่อง "การเมือง" แบบประชาธิปไตย ทำไมจึงเจริญช้าในเมืองไทย คำตอบอาจจะเป็นเพราะว่า คล้ายกับ QC ที่ "เกิดเมืองฝรั่ง โตที่ญึ่ปุ่น แล้วมาตายสนิทที่เมืองไทย" ก็ได้


หรืออาจจะเป็นเหมือนกับที่มี (เรื่องเล่า) มาว่า ท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ถามท่านประธานเหมาว่า "เมืองไทยจะเป็นคอมมิวนิสต์ไหม" ท่านประธานเหมา ตอบว่า " เมืองไทยไม่มีวันเป็นคอมมิวนิสต์หรอก เพราะถ้าเมืองไทยเป็นคอมมิวนิสต์เมื่อไหร่ ระบอบคอมมิวนิสต์จะ "ฉิบหาย" ล่มสลายหมด" (ฮา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น