วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วิบากกรรมสังคมไทย ? / วิบากกรรมส่วนตัว ?

ผมเขียนบทความนี้ เมื่อ 26 ธันวาคม ปีที่แล้ว(2555)   ไปลงที่เว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง   ผมเห็นว่าตรงกับสถานการณ์ในปัจจุบัน   จึงขอนำมาเสนอเป็นข้อมูลด้านหนึ่งอีกครั้ง   (จะเชื่อก็ได้  ไม่เชื่อก็ได้นะครับ)

..............................


การเมืองปีหน้า(2556) จุดโฟกัสจะไม่ได้อยู่ที่ทักษิณอีกต่อไป   หากแต่จะอยู่ที่ "การเปลี่ยนแปลง" ศูนย์อำนาจการเมือง   เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายจารีตนิยม  ฝ่ายอำมาตย์นิยม   และประชาชนทั้งหมด


ตามหลักโหราศาสตร์กรรม   :  ดวงชะตาบ้านเมืองไทย (ผมไม่ได้ใช้ดวงเมือง สมัยรัชกาลที่ 1 ทำนายครับ) มีดวงดาวปัจจุบัน (เสาร์ในราศีตุลย์ พฤหัสในราศีมิถุน ราหูในราศีธนู) ที่บอกเหตุว่า ถ้าประเทศไทยในปี 2556  มีความวุ่นวาย  และผู้ก่อความวุ่นวายไม่ใช่พวกเสื้อแดง  แสดงว่าบ้านเมืองเราจะกำลังผ่านพ้น "วิบากกรรมเก่า" ที่ทั้งคุณทักษิณ และบุคคลที่จองเวร ผูกเวรกันมา ได้ถึงเวลายุติกรรมนั้นแล้ว   เพราะเหตุ"นารีขี่ม้าขาว" (ดาวจันทร์ เรือน 9 ในราศีกุมภ์) [ที่ทางฝ่ายอำมาตย์เสกสรรปั้นคำทำนาย  แล้วกลับปรากฏว่าเป็นความจริงเสียนี่ (ฮา)] สามารถสลายอิทธิพลจากผู้มีอิทธิพล(ดาวอาทิตย์ เรือน 11 ในราศีพฤษภ) และกรรมเก่า(ดาวเสาร์ เรือน 11 ในราศีพฤษภ)  โดยการสนับสนุนจากนักวิชาการ/พระ (ดาวพหัสบดี เรือน 6 ในราศีธนู)   และนักคิดนักเขียนหัวก้าวหน้าที่ใช้วิทยาการทางเทคโนโลยีอิเลคทรอนิคส์ (ดาวพุธ และดาวยูเรนัส เรือน 10 ในราศีเมษ) [พวกอำมาตย์จึงสกัดถ่วงไม่ให้มี 3 G อย่างเต็มที่]  


พวกอำมาตย์เองก็รู้และเชื่อโหราศาสตร์ไสยศาสตร์อย่างยิ่ง (โดยเฉพาะรองหัวหน้าคณะอำมาตย์เก่งเรื่องนี้มาก)    จึงทำให้หัวหน้าอำมาตย์ และครอบครัว  ถึงกับดิ้นรนและแสวงหาทางยับยั้ง   แก้ไข   โดยการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน   และไปแก้ทางไสยศาสตร์มีการสะเดาะเคราะห์  ต่ออายุ วุ่นวายไปทั่วประเทศ  ที่ไหนมีเกจิดัง หมอผีดังๆ หรือคิดว่าชื่อสถานที่ไหน(ชัยนาท+ชัยภูมิ ฯลฯ) จะช่วยเขาได้  เขาส่งคนไปให้ทำพิธีช่วยเขาหมด  


ส่วนตามหลักพุทธศาสนา :  ถ้าคุณทักษิณเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นผลมาจากกรรมที่เคยทำมา  และยอมรับชะตากรรมจากวิบากกรรมเก่านั้น  ไม่คิดต่อสู้กับพวกอำมาตย์ และครอบครัวหัวหน้าอำมาตย์ กรรมนั้นก็ยุติลงได้   (ผมเชื่อว่าจริงๆแล้ว  ในจิตสำนึกของคุณทักษิณไม่เคยคิดล้มสถาบัน  เนื่องจากในอดีตชาติที่ก่อกรรม  คุณทักษิณเคยเป็นบรรพบุรุษของตระกูลหัวหน้าอำมาตย์  จึงไม่ได้ก่อกรรมใหม่กันอีก,  นอกจากพวกอำมาตย์คอยพูด  คอยกระตุ้นให้ระแวงทักษิณเสมอ  ซึ่งนี่ก็คือวิบากรรมเก่าที่คุณทักษิณเคยทำไว้)   

เมื่อถูกกระทำจากกลุ่มอำมาตย์มากเข้า  นานๆที คุณทักษิณก็จะฮึดสักที  ตอบโต้สักที    แต่เมื่อทิ้งระยะนานไป  ก็ทำไม่ได้  เพราะใจคุณทักษิณมีความผูกพันกับเชื้อสายตระกูลหัวหน้าอำมาตย์มาทุกชาติ   และเนื่องด้วยคุณทักษิณไม่ได้เป็นคนผูกเวรมากับหัวหน้าอำมาตย์และครอบครัว  มีแต่พวกกลุ่มอำมาตย์และบริวารอำมาตย์ผูกเวรที่ผูกแค้นมากับคุณทักษิณเท่านั้น      แต่เนื่องจากหัวหน้าอำมาตย์ ผสมโรงกับเมียหัวหน้าอำมาตย์ที่มักใหญ่ใฝ่สูงอยากมีอำนาจบารมีล้นฟ้าล้นแผ่นดิน  บ้าสมบัติ งกสมบัติ  บ้าชื่อเสียงคำสรรเสริญเยินยอ   ไม่อยากให้ใครมาได้มากกว่าตัวเอง  และคิดว่าตัวเองเป็นอดีตผู้ยิ่งใหญ่มาเกิด  จึงบีบคั้น  ฆ่าฟันผู้ที่ไม่ยอมให้ตัวเอง สร้างความวุ่นวายไปทั่วประเทศ


ถ้าพวกเสื้อแดงก้าวข้ามคุณทักษิณ  หรือคุณทักษิณไม่ค่อยหวังพึ่งจากพวกเสื้อแดงอีกแล้ว  พูดแต่เรื่องประชาธิปไตย   แสดงว่ากรรมของคุณทักษิณกับพวกอำมาตย์กำลังใกล้จะจบสิ้นแล้ว   และถ้าพลังเสื้อแดงมุ่งมั่น  ไม่รอ  ไม่เกี่ยวกับคุณทักษิณแล้วจริงๆ   นั่นแสดงว่าพวกอำมาตย์เลิกผูกเวรผูกกรรมกับคุณทักษิณแล้วเช่นกัน  ถ้าจิตใจคุณทักษิณยอมเสียสละตนเอง  ยอมรับวิบากกรรมของตัวเองอย่างแท้จริ

แต่ก็จะทำให้พวกบริวารอำมาตย์เดิมไม่พอใจ  จะก่อความวุ่นวายขึ้นมา  เพราะยังไม่หายเจ็บแค้นที่ผูกเวรกันมา   กรรมใหม่ก็จะก่อขึ้นมาอีก  แต่ไม่รู้ว่าใครจะผูกเวรกับใครต่อไปในอนาคต  ทุกท่านต้องเฝ้ารอดูเองในปีหน้า    


แต่ถ้าในแง่สำหรับประชาธิปไตย :  กลับถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการปกครองแบบระบอบนี้   เพราะทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงได้ต้องเกิดจากพลังของคนหมู่มาก   ไม่ใช่คิดหวังรอใครต่อใคร  ไม่ว่าทั้ง "ผู้มีบุญ" ผู้วิเศษ" ผู้มีบารมี" หรือ "พระโพธิสัตว์"  มาช่วยปัดเป่าทุกข์เข็ญของตัวเองอีก   


ถ้าสังคมไทยยังคิดรอใครมาเป็น "ผู้นำ" ให้  นั่นแปลว่า  สังคมไทยยังไม่หลุดจากวังวนเดิม 


ถ้าคนเสื้อแดง หรือพวกใจประชาธิปไตยเริ่มน้อยใจระบบชนชั้นมากขึ้น  อยากคิดลงมือทำด้วยตนเอง  และยิ่งถ้ารวมตัวสำเร็จ  ซึ่งผมก็เชื่อว่าสำเร็จแน่  เราจะเข้าสู่ยุค "มหาชนพาไป" ตามคำทายปลอมๆของพวกอำมาตย์นั่นเอง 


"...เพราะความกลัว  จึงทำให้เสื่อม..." อมตะวาจาของคุณสมัครนี้  ใช้การได้เสมอ


ถ้ายิ่งแก้ไข  ก้ยิ่งเกิด,  ยิ่งกลัว ยิ่งดิ้น  ก็ยิ่งเข้าทางหายนะความวิบัติ  (หนังเกาหลี "จูมง" เป็นตัวอย่าง ตอนพวกมเหสี ขุนนางแคว้นพูยอพยายามลอบฆ่าจูมง  เพราเชื่อคำทำนาย)  
  

6 ความคิดเห็น:

  1. ท่านอาจารย์ครับ
    ขอเรียนถามเพื่อความเข้าใจในบทความของท่านว่า
    หัวหน้าอำมาตย์ คือใคร?
    รองหน.อำมาตย์ คือใคร?
    รบกวรคำตอบด้วยครับ เพราะงง
    ด้วยความนับถืออย่างสูง
    นพดล

    ตอบลบ
  2. ไม่ต้องไปสนใจตรงนั้นครับ, สนใจตรงที่ว่าคุณทักษิณ คือ ใคร เมื่อ 200 กว่าปีมาแล้วดีกว่าครับ เพราะถ้าเข้าใจแล้ว ตัวละครอื่นๆ ก็เดาไม่ยากนัก. หน้าทักษิณออกเหลี่ยม ก็ คล้ายท่านผู้นั้นในชาตินั้น ลองดูๆแถวรูปปั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ก็คงพอเดาได้แล้วครับ.

    ถ้าคุณเชื่อมั่นในกฏแห่งกรรมตามแนวทางพุทธศาสนา คุณก็ย่อมพอเข้าใจได้เองว่า ทักษิณมาเจอวิบากกรมแบบนี้ ก็เพราะเคยไปทำแบบเดียวกันนี้กับคนที่มีบุญคุณมาก่อน

    ทั้งถูกใส่ร้ายป้ายสี ทั้งถูกลอบฆ่าทำร้าย (ระเบิดเครื่องบิน, คาร์บอมที่บางพลัด, ซุ่มลอบยิงที่ บน.6 ฯลฯ พอจะยกตัวอย่างเปรียบเทียบได้กับกรณี จดหมายของพลเองมนูญ รูปขจร ที่มีถึงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ใครเป็นคนชั่ว?)

    ดีที่ว่าต่อมาช่วยชำระพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ กวดขันเอาจริงพระภิกษุสามเณรอยู่ในอาจารวัตรที่ดี สมเป็นสมณะขึ้นมาบ้าง รวบรวมสังคายนาพระไตรปิฏก จึงทำให้บุญนั้นจึงแคล้วคลาดมาได้บ้าง

    แต่กรรมที่ทำให้ผู้มีบุญคุณต่อประเทศไทยต้องมัวหมอง มีมลทิน และฆ่าฟันท่านผู้นั้นพร้อมครอบครัว บริวารที่จงรักภักดี จึงส่งผลให้มาประสบวิบากกรรมเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

    ส่วนคุณยิ่งลักษณ์ อดีตชาตินั้นเป็นลูกสาวของท่านผู้นั้น ที่มาเป็นคุณทักษิณในชาตินี้ และเป็นเมียของผู้มีบุญคุณต่อชาติไทย จึงต้องเกิดมาเพื่อประสาน ลบรอยเวรกรรมที่จองอาฆาตกันมาทั้งพ่อ ลูกน้องพ่อ และบริวารเก่าของสามี

    พอจะบอกใบ้ให้ได้เท่านี้ครับ มากกว่านี้ไม่ได้ ใกล้เคียงอาญา ม.112

    หัวหน้าอำมาตย์ อดีตชาติเป็นนักบวช และพระราชาที่มีเป้าหมายเป็นพระโพธิสัตว์มาหลายชาติ สิ่งที่หัวหน้าอำมาตย์ต้องมาเรียนรู้ในชาตินี้ คือ การติดดี (self righteous) คือยึดมั่นถือมั่นว่าความคิดตัวเองนั้นถูกกว่าผู้ใด คนอื่นผิดหมด ตนทำดีที่สุดแล้ว ใครคิดไม่เหมือนตัวเอง ไม่ทำตามตัวเอง เป็นคนชั่วหมด

    ชาติภพนี้ เขาจึงต้องมาเรียนรู้การสื่อสาร รู้จักและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นที่หลากหลายบ้าง และหัดอยู่ร่วมกับคนในสังคมให้ได้ สรุปง่ายๆ เขาต้องมาเรียนรู้การเข้าใจจิตใจผู้คนในสังคมให้มากขึ้น

    แต่ที่ดูแล้ว คงยาก เพราะท่านหลงอำนาจ เมาคำสรรเสริญแล้วครับ ใครได้รับเท่าตัวเอง หรือมากกว่าตัวเองไม่ได้, คงทำให้ท่านต้องเกิดเพิ่มอีกหลายชาติ กว่าจะถึงเส้นทางโพธิญาณครับ

    ตอบลบ
  3. ดูท่านอาจารย์ไม่ค่อยปลื้มหัวหน้าอำมาตย์เท่าไหร่นะครับ
    ตั้งแต่หน.ฯลงไปนี่ผมเห็นด้วย
    แต่ตัวหน.ฯนี่ค่อนข้างเห็นแย้งครับ

    ตอบลบ
  4. ผมเขียนตามหลักวิชาโหราศาสตร์ครับ คุณลองไปหาหนังสือ " อ่านดวงชนะกรรม" ของคุณมณฑาณี " เกี่ยวกับภารกิจของจิตวิญญาณในชาตินี้ ที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้ผ่านได้ (ราหูเหนือราศีเมถุน ราหูใต้ราศีธนู" หน้า 591 และราหูเรือนทีี่ 5 หน้า 605 ") เขาแปลมาจากหนังสือต่างประเทศ หรือจะไปหาอ่านจากหนังสือต่างประเทศโดยตรงก็ได้ครับ หน้า 799 รายละเอียดอื่นๆ หาอ่านได้จากหนังสือเล่มนี้ ถ้าโชคดีคุณก็จะเข้าใจว่าตัวเองมาเกิดในชาตินี้เพราะอะไร เกิดมาเพื่อเรียนรู้อะไร และต้องชดใช้อะไรบ้าง คุ้มครับ ถ้าได้อ่าน

    อ้อ ! ผมแถมเว็บโหราศาสตร์กรรมให้ครับ http://www.astro.com/ ลองเข้าไปศึกษาดูได้ครับ เผื่อเข้าใจการเวียนว่ายตายเกิดตามแนวพุทธศาสนา โชคดีในการเรียนรู้นะครับ

    อ้อ ! ถ้าอยากรู้เรื่องเมืองไทยยุคนี้ชัดๆ ให้ใช้วันที่ 1 may 1853 เวลา 08.48 น. แล้วจะเห็นความแม่นยำเองครับ

    ตอบลบ
  5. Unknown ได้ฝากความคิดเห็นไว้ที่บทความ "วิบากกรรมสังคมไทย ? / วิบากกรรมส่วนตัว ?" ของผม แต่ไม่ปรากฏบนกล่องข้อความ (ไปปรากฏที่อีเมล์อย่างเดียว) จึงถือโอกาสนำมาลงด้วย

    จากบทความของหลวงพ่อฤาษีลิงดำฯ ในหลายวาระ ความน่าเชื่อถือ เกิน100 และหากพลั้งไปปรามาสท่านเข้าก็ตีตั๋วตามเทวทัตแน่นอน

    พระเจ้าตากสินไม่ได้ถูกรัชกาลที่1 ทำร้ายใดๆทั้งสิ้น ทั้งสองท่านวางแผนกู้สถานะการณ์ชาติ ณ ขณะนั้นต่างหาก และพระองค์ท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว เสด็จเข้าแดนนิพานแล้ว

    รัชกาลที่1 ท่านยอมรับสิ่งที่ต้องเกิดกับท่านทุกประการ เพื่อนๆท่านใด(9 ใน 10 พระยาเอกของพระเจ้าตากสิน)พูดไม่รู้เรื่องก็ต้องเล่นตามบทไป

    รัชกาลที่1 ไม่ใช่นายทักษิณ ที่บังเอิญรูปหน้าคล้ายๆท่านเท่านั้น (คล้าย ร.3มากกว่าด้วยซ้ำ) ท่านบังเกิดในรัชสมัยรัชกาลที่5 อีกครั้ง แล้วก็มาเกิดในรัชสมัยนี้อีกครั้ง และเป็นชาติสุดท้ายด้วย

    ในหลวงพระองค์นี้ ไม่ใช่คนติดดีอย่างที่ว่า ท่านดีจริงๆ ท่านทำเพื่อคนไทยมากมากมายมหาศาล แต่ก็ยังมีไอ้คนกลุ่มนึง จ้องทำลายท่าน ด่าว่าท่าน ผมว่าไอ้พวกนี้ไม่ควรอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย ไม่ชอบเจ้าแผ่นดิน ก็น่าจะไปอยู่ชาติอื่นเช่นเขมร หรือ พม่าเป็นต้น

    อ้อ พระโพธิสัตว์องค์นี้ จะกลับมาเกิดอีก 5 ชาติเท่านั้น สุดท้ายตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ตามปรากฏใน 10 อนาคตวงศ์ ซึ่งพระไตรปิฎกได้บรรยายไว้ ไม่ต้องห่วงว่าท่านจะดีเลย์ไปไหน เพราะท่านนิตยฯองค์นี้บารมีล้นไปตั้งนานแล้ว

    หวังว่าคงไม่ทำร้ายความเห็นของคุณจนมากเกินจะรับไหว ระวังหน่อย ปรามาสพระอรหันต์นี่ตีตั๋ววันเวย์ทิ้งดิ่งอย่างเดียวนะ

    ตอบลบ
  6. และผมได้ตอบไปว่า

    ................

    ตั้งใจว่าจะไม่ตอบ แต่นึกขึ้นได้ว่า ต่างคนต่างเสนอมุมมอง ทำให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์ ช่วยฝึกความคิดพิจารณา วิเคราะห์เหตุผลไปด้วย

    ถ้าให้ดี ท่านผู้อ่าน และคุณลองอ่านหลักฐานเหล่านี้เพิ่มเติมได้

    1. ลองอ่านประวัติศาสตร์ประเทศญวณ ที่กล่าวถึงเบื้องหลังการเปลี่ยนจากกรุงธนบุรี เป็นกรุงรัตนโกสินทร์ แปลโดย คุณปรีดา ชลาศัย ส่วนที่กล่าวถึงพระเจ้าตากสินไม่ได้ถูกประหารชีวิต เข้าใจว่าคนที่เขียนเริ่มต้น คือ หลวงวิจิตรวาทการ ต่อมาเป็นแม่ชีวรมัย กบิลสิงห์ แล้วก็หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แล้วยังมีผู้นำไปเขียนเป็นนิยายเพิ่มอีก เช่น คุณสุทัสสา อ่อนน้อม เป็นต้น

    2. จดหมายเหตุความทรงจำของพระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี (เจ้าครอกวัดโพธิ์) เป็นน้าสาวของรัชกาลที่ 1 พระองค์เจ้าทรงบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2310 ถึง พ.ศ. 2363 ในช่วงรัชกาลที่ 2

    3. ถ้าอ่านอนาคตวงศ์ จากต้นฉบับจริง, (ไม่ใช่ฟังจากใครเล่าว่า) ก็น่าจะทราบว่า กว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะทรงตรัสรู้ ละกิเลสตัณหา ตัดอวิชชาได้สิ้นเชิง เมื่อพระองค์ยังเป็นสัตว์ธรรมดา ย่อมทำความผิดพลาดมาด้วยกันทั้งนั้น จึงทำให้เสวยพระชาติเวียนว่ายตายเกิดเป็น "สรรพสัตว์" ทุกชนิดไปตามกรรมที่ทำ แม้พระพุทธองค์ของเรา ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ถึง 4 แสนอสงไขยกัปป์ เกิดตั้งแต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่น สุนัข แมว วัว ควาย คนธรรมดา กษัตริย์ พราหมณ์ ที่บันทึกก็มีถึง 550 ชาติ แม้กระทั่งชาติสุดท้าย แม้พระองค์จะทรงตรัสรู้แล้ว จิตหลุดพ้นแล้วก็ตาม แต่วิบากกรรมที่พระองค์ทำไว้ พระองค์ก็ยังต้องเสวยวิบากกรรมนั้น เช่น วิบากกรรมที่พระองค์เคยดูหมิ่นการตรัสดรู้ของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ก็ยังทำให้พระองค์ตรัสรู้ช้าถึง 6 ปี,

    เมื่อผู้ใดยังไม่สิ้นสุดกิเลสตัณหา ก็ต้องทำผืดพลาดกันได้ทุกตัวคน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ตั้งใจเป็นพระโพธิสัตว์ก็ตาม ตัวอย่างเช่น หลังจากสิ้นสุดภัททกัปป์นี้ โลกแตกสลายไป จนโลกเริ่มก่อตัวขึ้นมาใหม่ (กัปป์หนึ่งยาวนานแค่ไหน ก็ลองค้นหาดู) จะเกิดมัณฑกัปป์ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์ องค์แรก คือ พระรามโพธิสัตว์ และพระเจ้าปเสนทิโกศล ซึ่งองค์หลังนี้ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บอกว่า มาเกิดเป็นรัชกาลที่ 4 เพื่อกอบกู้พระพุทศาสนาให้เจริญรุ่่งเรืองใหม่ (จากหนังสือ "รำลึกวันวาน" หน้า 194 ของพระอาจารย์ทองคำ จัดพิมพ์โดยกองทุนแสงตะวัน วัดปทุมวนาราม) ในประวัติของพระองค์ก็พอค้นหาอ้่านได้ พระองค์ทำทั้งประโยชน์มากมาย และที่ทำความผิดพลาดก็มี

    ผมไม่ได้ว่าไม่เชื่อ ในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้ในกาลข้างหน้า ถ้าเอาตามที่พระเถระฝ่ายปฏิบัคิว่าไว้ ท่านก็คือ ช้างปาเลไลยกะ ซึ่งยังอยู่อีกไกลแสนไกล สิ้นกัปป์ไปแล้วอีก 4 กัปป์ ถึงงจะเกิดมัณฑกัปป์อีก และมีพระพุทธเจ้า ๒ พระองค์จะบังเกิดในมัณฑกัปป์นั้น คือช้างนาฬาคีรีหัตถี ที่พระเทวทัตให้พระเจ้าอชาตศัตรูปล่อยออกมา ปรารถนาจะให้แทงองค์สมเด็จพระพุทธเจ้านั้น ก็เป็นบรมโพธิสัตว์สัพพัญญูพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระติสสะสัพพัญญู คือช้างปาลิไลยหัตถีนั้นตัวหนึ่งก็เป็นบรมโพธิสัตว์ จักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระสุมงคลพระพุทธเจ้า สองพระองค์นั้นได้ตรัสในมัณฑกัปป์อันเดียวกัน พระพุทธเจ้าในอนาคตพระองค์นั้น ยังมีโอกาผิดพลาดมาเกิดเป็น "ช้าง" ในชาติที่พระพุทธเจ้าของเรายังมีพระชนม์อยู่เลย แล้วนับประสาอะไรกับการเวียนว่ายตายเกิดอีกไม่รู้กี่อสงไขยกัปป์เล่า

    ......แต่การเวียนว่ายตายเกิดที่นานแสนนาน คนที่ยังไม่สิ้นสุดกิเลสตัณหา โอกาสทำผิดพลาดยังมีอยู่ตลอดเวลา.........

    4. ถ้าสององค์วางแผนร่วมกันหลอกจีนจริง ทำไมต้องฆ่าลูก ฆ่าเมียพระเจ้ากรุงธนบุรีจนเกือบหมด เหลือรอดมาแค่ 4 องค์เท่านั้น (ที่รอดเพราะเป็นลูกของลูกสาวตัวเอง) และฆ่าขุนนางของพระเจ้ากรุงธนบุรีจนหมดสิ้นด้วยเล่า


    5. ปกติฝ่ายที่รับไหว มักเป็นฝ่ายที่ถูกดูหมิ่นว่า "ไม่รัก" มากกว่า, แต่ฝ่ายที่เร่าร้อน เกลียดชัง รับความคิดเห็นต่างไม่ไหว มักเป็นฝ่าย "ที่เห็นคนไม่ใช่ คน" มากกว่า



    เมื่อ 20 ธันวาคม 2556 10:36,

    ตอบลบ