วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ชีวิตที่เลือก "ได้" : ภพชาติที่เลือก "เป็น"

ชีวิตที่ "เลือก" ได้
คนที่เข้าใจว่า “ชีวิต” และ “กายกับใจ” เป็นสิ่งเดียวกัน จึงแสวงหาทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองคิดว่า “ดี” “ถูก” “มีคุณค่า” มาบำรุงบำเรอร่างกาย ปรนเปรอจิตใจ คนประเภทนี้ คือ “คน”
และธรรมชาติของจิต “คน” ที่ไม่ได้รับการฝึกหัด วันหนึ่งๆ จิตของคนนั้นๆ จะหมุนเวียนอยู่ในภพน้อยภพใหญ่อยู่ทั้งวันทั้งคืน เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ดิ้นรนไปเรื่อยๆ ปรุงแต่งไปเรื่อยๆ โดยมี “ตัณหา” เป็นแรงผลักดัน สภาพจิตจึงเดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย ปรุงแต่งสร้างอารมณ์ไปตามสิ่งที่มากระทบอยู่ตลอดเวลา อาทิ
คนที่จิตใจ ชอบมักฟุ้งซ่าน ใจลอย ปล่อยใจไปตามสิ่งแวดล้อมที่มากระทบ มีโมหะมาก ถ้าไม่ใจลอยก็ฟุ้งซ่านอุตลุด ไม่ก็ซึมไป ไม่ก็ลังเลสงสัย ไอ้โน่นก็ไม่รู้ ไอ้นี่ก็ไม่รู้ หรือมันอย่างโน้น หรือมันอย่างนี้ คิดมาก พวกคิดมาก ลังเลใจมากคนประเภทนี้อยู่ในสภาพจิต (ภพ) “เดรัจฉาน”
คนที่จิตใจมีแต่ความเร่าร้อนด้วยราคะ แผดเผาจิตใจด้วยความริษยาอาฆาต เห็นใครดีกว่าไม่ได้ จิตใจไม่แช่มชื่นไม่เบิกบาน เจือด้วยโทสะ เจือด้วยความทุกข์ตลอดเวลา คนประเภทนี้อยู่ในสภาพจิต (ภพ) “นรก”
คนที่จิตใจมีแต่ความโลภ โลภอยากได้โน่น ได้นี่เสมอ ไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมี โดยไม่สนใจถูกผิดดีชั่ว คนประเภทนี้อยู่ในสภาพจิต (ภพ) “เปรต”
คนที่จิตใจหลงคิดว่าตัวเองแน่ ตัวเองเป็นหนึ่ง ยึดมั่นถือมั่นตัวเองมาก ยึดถือในความเห็นจัดๆตัวเองถูกแต่เพียงผู้เดียวอย่างรุนแรง มีมานะทิฏฐิสูง ไม่ฟังใคร คนประเภทนี้อยู่ในสภาพจิต(ภพ) “อสุรกาย”
คนที่จิตใจมีศีล รู้จักห้ามใจตนเอง มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีน้ำใจบ้าง คนประเภทนี้อยู่ในสภาพจิต (ภพ) “มนุษย์”
คนที่จิตใจมีความสุข ชอบทำบุญทำกุศล มีความละอายบาป เกรงกลัวต่อบาป คนประเภทนี้อยู่ในสภาพจิต (ภพ) “เทวดา”
คนที่จิตใจมีความสงบ มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาในจิต คนประเภทนี้อยู่ในสภาพจิต (ภพ) “พรหม”
แต่...ถ้าเราสามารถฝึกหัดให้จิตใจ “มีสติ” รู้ทันจิต รู้ทันใจ รู้ทันกาย รู้ทันความเคลื่อนไหวของกาย รู้ทุกสิ่งด้วยความเป็นกลางด้วยจิตที่ตั้งมั่น จิตจะหมดความดิ้นรน หมดความอยาก จิตไม่ถูกตัณหาผลักดัน จิตจะเป็นอิสระขึ้นมา คนประเภทนี้อยู่ในสภาพจิต (ภพ) “พระ” หรือ "พุทธะ"
แล้วตัวท่านคิดว่าจิตของท่าน ในแต่ละวันส่วนมากจะอยู่ในสภาพจิตแบบไหน ?
และถ้าท่านรู้ว่า ส่วนมากท่านมีสภาพจิตแบบไหน ท่านก็สามารถทำนายตัวเองได้เลยว่า เมื่อสิ้นชีวิตลงตัวท่านจะไปเกิดในภพภูมิใดต่อไป
ก็ได้แต่ขอให้ทุกท่าน "สร้างภพในแต่ละวัน และในแต่ละชาติต่อไปให้ดีๆ "
ชีวิตของท่านเป็นอย่างไร ท่าน "เลือก" แล้ว
...................
เมื่อเข้าใจว่า...เมื่อกายเจ็บหรือทุกข์ ใจก็เจ็บหรือทุกข์ด้วย เป็น “คนธรรมดา”
เมื่อเข้าใจว่า...กายเจ็บหรือทุกข์ แต่ใจบางครั้งก็ไม่เจ็บหรือทุกข์ตาม เป็น “คนพอมีสติ”
เมื่อเข้าใจว่า...กายเจ็บหรือทุกข์ก็ส่วนกาย ใจก็ส่วนใจไม่เจ็บ ไม่ทุกข์ตาม เป็น “คนมีสติ”
เมื่อเข้าใจว่า...กายและใจมีแต่ทุกข์ จิตแค่ “เฝ้าดู เฝ้ารู้” เป็น “พระ” ไม่ใช่ “คน”
เมื่อเข้าใจว่า...กายก็ไม่มี จิตก็ไม่มี มีแต่จิต "รู้ ตื่น เบิกบาน" เป็น "พุทธะ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น